DEV Community

Cover image for ศึกใหญ่วงการ Open Source: WordPress vs WP Engine
Passakon Puttasuwan
Passakon Puttasuwan

Posted on

ศึกใหญ่วงการ Open Source: WordPress vs WP Engine

WordPress เกิดขึ้นในปี 2003 และได้กลายเป็นหนึ่งในระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ถูกใช้ตั้งแต่บล็อกส่วนตัวไปจนถึงเว็บไซต์ของทำเนียบขาว โดยทำงานภายใต้หลักการของซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สและใช้ลิขสิทธิ์แบบ GPL (GNU General Public License)

ในระบบนิเวศของ WordPress มีองค์กรสำคัญหลายส่วน:

  1. WordPress Foundation - มูลนิธิไม่แสวงหากำไรที่เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาของ WordPress
  2. Automatic - บริษัทของ Matt Mullenweg ที่ดูแล WordPress.com และให้บริการเชิงพาณิชย์
  3. WP Engine - ผู้ให้บริการโฮสติ้ง WordPress รายใหญ่

จุดเริ่มต้นความขัดแย้ง

ดราม่าเริ่มต้นเมื่อ Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress ออกมาประกาศว่า WP Engine เป็นเสมือน "มะเร็งร้าย" ของวงการ WordPress ที่ต้องกำจัดทิ้ง คำประกาศนี้สร้างความตกใจให้กับชุมชน WordPress อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อ WP Engine เป็นผู้เล่นรายสำคัญในระบบนิเวศ

ประเด็นหลักของความขัดแย้ง

ข้อเรียกร้องทางการเงิน

  • Mullenweg เรียกร้องให้ WP Engine จ่ายเงิน 8.8% ของรายได้ก่อนหักภาษี (ประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ต่อปี)
  • คิดเป็นเงินประมาณ 24 ล้านดอลลาร์ต่อปี
  • ข้อเรียกร้องนี้มุ่งเป้าเฉพาะ WP Engine ไม่รวมผู้ให้บริการโฮสติ้ง WordPress รายอื่น

การใช้เครื่องหมายการค้า

  • แม้ WordPress จะเป็นโอเพนซอร์ส แต่เครื่องหมายการค้าควบคุมโดย WordPress Foundation
  • Mullenweg กล่าวหาว่า WP Engine แสวงหาผลประโยชน์จากชื่อ WordPress โดยไม่ตอบแทนชุมชนอย่างเพียงพอ

การแก้ไขระบบ

  • WP Engine ถูกวิจารณ์ที่แก้ไขฟีเจอร์บางอย่างของ WordPress
  • ตัวอย่างเช่น การจำกัดประวัติการแก้ไข (revision history) เพื่อประหยัดทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์
  • Mullenweg มองว่าสิ่งนี้ทำให้ประสบการณ์การใช้งาน WordPress ด้อยลงและอาจทำลายชื่อเสียงของแพลตฟอร์ม

ปัญหาระบบชำระเงิน

  • WP Engine ถูกกล่าวหาว่าดัดแปลงระบบ Stripe ของ WooCommerce
  • เปลี่ยนเส้นทางค่าคอมมิชชั่น (affiliate) จาก WordPress Foundation มาเป็นของตัวเอง

การยกระดับความขัดแย้ง

Automatic ได้ดำเนินการหลายอย่าง:

  1. บล็อกการเข้าถึง WordPress.org ของ WP Engine
  2. ป้องกันไม่ให้ลูกค้า WP Engine อัพเดทปลั๊กอิน
  3. พยายามเข้าควบคุม ACF (Advanced Custom Fields) ปลั๊กอินยอดนิยมที่ WP Engine เป็นเจ้าของ

การลาออกครั้งใหญ่ของพนักงาน

Mullenweg เสนอข้อเสนอแก่พนักงาน Automatic ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา:

  • เงินชดเชย 6 เดือน
  • โบนัส 30,000 ดอลลาร์
  • เงื่อนไข: ห้ามทำงานกับ WordPress อีกต่อไป

ผลลัพธ์ที่น่าตกใจคือ 99% ของพนักงาน (159 คน) ตอบรับข้อเสนอ คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 4.7 ล้านดอลลาร์

ผลกระทบต่อชุมชน

ชุมชน WordPress แบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน โดยมีความกังวลหลักๆ ดังนี้:

  1. การสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการกำกับดูแลโอเพนซอร์ส
  2. ผลกระทบต่อผู้ใช้งานที่ติดอยู่ในความขัดแย้ง
  3. จริยธรรมของการใช้การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานเป็นเครื่องต่อรอง
  4. ความสัมพันธ์ระหว่างผลประโยชน์เชิงพาณิชย์กับชุมชนโอเพนซอร์ส

คำถามสำคัญที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์นี้นำมาสู่คำถามสำคัญหลายข้อเกี่ยวกับซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส:

  1. บริษัทที่ทำกำไรจากโอเพนซอร์สควรตอบแทนโปรเจกต์อย่างไร?
  2. อะไรคือการใช้เครื่องหมายการค้าของโอเพนซอร์สในเชิงพาณิชย์ที่เหมาะสม?
  3. เส้นแบ่งระหว่างการปกป้องชุมชนกับการใช้อำนาจเกินขอบเขตอยู่ตรงไหน?
  4. โปรเจกต์โอเพนซอร์สจะสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์เชิงพาณิชย์กับประโยชน์ของชุมชนได้อย่างไร?

สถานการณ์ปัจจุบัน

ความขัดแย้งได้ลุกลามไปสู่การฟ้องร้องทางกฎหมาย โดยทั้ง Automatic และ WP Engine ต่างยื่นฟ้องซึ่งกันและกัน ผลลัพธ์ยังไม่แน่ชัด แต่เหตุการณ์นี้ได้สร้างรอยแผลให้กับชุมชนโอเพนซอร์สและตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของโมเดลธุรกิจโอเพนซอร์ส

บทเรียนที่ได้รับ

เหตุการณ์นี้สะท้อนบทเรียนสำคัญหลายประการสำหรับชุมชนโอเพนซอร์ส:

  1. ความจำเป็นของโครงสร้างการกำกับดูแลที่ชัดเจนในโปรเจกต์โอเพนซอร์ส
  2. ความสำคัญของการสื่อสารที่โปร่งใสเกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์
  3. ความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์เชิงพาณิชย์กับประโยชน์ของชุมชน
  4. ความเสี่ยงของการรวมศูนย์อำนาจในโปรเจกต์โอเพนซอร์ส

ความขัดแย้งระหว่าง WordPress และ WP Engine เป็นกรณีศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างโปรเจกต์โอเพนซอร์ส องค์กรเชิงพาณิชย์ และผลประโยชน์ของชุมชน มันแสดงให้เห็นว่าวิสัยทัศน์ที่แตกต่างกันสำหรับโปรเจกต์โอเพนซอร์สสามารถนำไปสู่ความวุ่นวายสำหรับผู้ใช้ปลายทาง และตั้งคำถามสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของการพัฒนาและการทำธุรกิจจากซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส

Billboard image

The Next Generation Developer Platform

Coherence is the first Platform-as-a-Service you can control. Unlike "black-box" platforms that are opinionated about the infra you can deploy, Coherence is powered by CNC, the open-source IaC framework, which offers limitless customization.

Learn more

Top comments (0)

Postmark Image

Speedy emails, satisfied customers

Are delayed transactional emails costing you user satisfaction? Postmark delivers your emails almost instantly, keeping your customers happy and connected.

Sign up