DEV Community

Cover image for ประสบการณ์ย้ายจาก Windows กลับมาใช้ Mac ในมุม DevOps
Damrongwit N.
Damrongwit N.

Posted on

ประสบการณ์ย้ายจาก Windows กลับมาใช้ Mac ในมุม DevOps

หลังจากที่ Apple ปล่อยตัว M1 Pro/Max มาในจังหวะที่ผมเองประสบปัญหา PC เครื่องหลักที่ใช้ทำงาน Dev เริ่มงอแงและใกล้ถึง Life Cycle ของมันพอดี ประกอบกับมีจังหวะที่จะต้องเปลี่ยนเครื่องเนื่องจาก project ตัวใหม่จะต้องใช้ Xcode ก็เลยใช้จังหวะนี้สั่ง MacBook Pro 14" CTO M1 Pro / Storage 1TB / Memory 32GB มาใช้งานเพื่อ build project ซึ่งนับว่าเป็นการกลับมาใช้ Mac ในรอบ 8 ปี หลังจากทิ้งช่วงไปตั้งแต่ Earlier 2014 และแน่นอนว่าวันที่ผมเขียนบทความนี้เป็นวันที่ Apple เปิดตัว M1 Ultra ได้เพียงสองวันเท่านั้น

General Purpose

หลังจากรอ 28 วัน เครื่องก็มาถึงโดยพี่ DHL เจ้าเก่า ณ วันนี้ ถ้านับเวลาก็ถือว่าเริ่มใช้มาได้เกือบ 2 เดือน ก็มีหลายอย่างที่ชอบและไม่ชอบ ซึ่งเดี๋ยวจะสรุปตอนท้ายอีกที แต่ประเด็นคืออยากเล่าประสบการณ์การ Switch Environment จากฝั่ง Microsoft มายัง Ecosystems ของ Apple ในมุมของ Dev ไว้ครับ และแน่นอนว่าผมเองเคยใช้ Mac และสภาพแวดล้อมการทำงานในทุกวันของผมจะต้องคลุกคลีกับ Unix-Like System หรือ Linux อยู่ทุกวันเป็นปกติ การย้ายมาจึงไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร ประเด็นหลัก ๆ เป็นเรื่องการปรับตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในฝั่งของ OS เพราะผมเองจะต้องใช้มันเป็นเครื่องหลักในการทำงาน หลัก ๆ ก็คงไม่พ้นเรื่องของการ Switch Window ไปมา รวมถึง Shortcut ที่จะต้องปรับตัวระยะหนึ่ง ได้มาก็จัดแจงเปลี่ยน keycap เจ้า Keychron ให้เป็น Mac Layout ใช้ไปสัปดาห์หนึ่งก็เริ่มคุ้นเคยกันดี

Performance

เรื่องนี้ไม่พูดไม่ได้เลย หลายคนน่าจะทราบจากเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่า Chip Apple Silicon M1 เขาแรง ผมเองเฉย ๆ เพราะคิดว่า ยังไง ๆ ซะ cycle ของการแข่งขันมันจะต้องสลับกันแพ้สลับกันชนะเรื่อย ๆ โดยในวันที่ตัดสินใจกด order เครื่อง CTO มา ตอนนั้นข่าวผล Benchmark Intel 12th Generation ก็ออกมาแล้ว ซึ่งเขาก็แรงจริง ๆ แต่ผมเองตั้งเป้าไว้แล้วละว่ายังไงก็จะกลับไปใช้ Mac ไม่ใช่เพราะว่า "M1 แรง" แต่ผมเองอยากปรับสภาพแวดล้อมการทำงานของตัวเอง เพราะช่วงหลังจะต้องทำงานร่วมกับน้อง ที่เป็น Front-End & Back-End Developer อยู่ตลอด ซึ่งหลังจากได้มา ก็รู้สึกได้ว่าการเปิดแล้วไม่ต้องรอหรือพร้อมทำงานทันทีมันเป็นยังไง ส่วนนี้อาจจะได้อานิสงค์มาจาก Unified Memory ซึ่งผมเองเลือกที่จะ CTO มาเป็น 32GB เลย

  • build project ไวสะใจ เปิด emulator ซ้อนหลาย ๆ ตัวสบาย ขอให้จอพอเถอะ
  • build ไปทำงานไป ไม่ได้รู้สึกถึงการแย่งทรัพยากรระหว่าง Application
  • ในวันที่เขียนบทความนี้ M1 รุ่นแรกเปิดตัวมาพักใหญ่ทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานทุกอย่างแทบไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะซอฟแวร์เกือบทุกตัวแก้ไข glitch เล็ก ๆ น้อย ๆ ไปหมดแล้ว
  • ผม streaming ไป สอนไปผ่าน meeting program ได้สบาย ๆ

ภาพขณะทำงานปกติ วัดอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 40 องศา บริเวณบานพับจอ<br>

USB Type-A to Type-C

สิ่งที่จะต้องปรับตัวอีกนิดหน่อยคืออุปกรณ์ต่อพ่วง จุดนี้ผมมีอุปกรณ์ที่เป็น Type-C อยู่เดิมบ้างแล้ว แต่จะมีพวก M.2 nVME 1TB ที่ถอดมาจากเครื่องหลักมาใส่ Enclosure เพื่อใช้เป็น External Storage
ไม่คุ้นกับการที่จะต้องต่อ Dongle ไว้ตลอดเวลาขณะทำงานเท่าไร แต่เรื่อง performance ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
มีประเด็น USB Type-C Ethernet Adapter ของ Ugreen นิดหน่อย คือผมเองก็ไม่ทราบว่าเป็นอะไร ทุกครั้งเมื่อเปิด Adobe XD ตัว Ethernet Device จะหายไปจากระบบ จะต้อง reboot เครื่องขึ้นมาใหม่เท่านั้น

Battery

นอกจากเรื่อง Performance แล้ว เรื่องแบตเตอรี่เป็นเรื่องที่ทุกคนพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ของเขาดีจริง ๆ ซึ่งก็ตามนั้นครับ Apple ทำการบ้านเรื่องการ Optimize ตัว Processor มาดีมาก ซึ่งคอร์เบา คอร์หนักของเขาทำงานดีจริง ๆ แบตชาร์จไว้ ถ้าเป็น Dev พกไปทำงานเปิด present หรือประชุม กลับบ้านมาแบตยังเหลือ

Dev Environment

ได้มาก็ปรับแต่ง shell + terminal ให้ทำงานง่ายขึ้น ก็เป็นทั่ว ๆ ไป ไม่ได้พิเศษอะไรครับ เล่นกับ .dotfiles นิดหน่อย ซึ่งเครื่องมือที่ผมใช้ก็เป็น zsh + tmux + oh my tmux แล้วก็ neovim ไว้แก้ขัด ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรใหม่มาก เพราะเดิมใช้บน WSL อยู่แล้ว จะมีอาการที่ zsh ช้า
vscode ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างที่ทำได้บน Windows มาทำต่อบนนี้ได้หมด
Xcode / Android Studio / Flutter ไม่มีปัญหาอะไร
Map Key ใหม่นิดหน่อย

Terminal

Pros

ข้อดีทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมล้วน ๆ ซึ่งหลัก ๆ ล้วนเป็นเรื่องที่ได้อานิสงค์จาก Apple Silicon ซึ่งสร้างบรรยากาศอยากทำงานขึ้นเยอะมาก
ไว/ประหยัดแบต
ร้อนช้า ถ้าคอร์เบาทำงานนี่ไม่ต้องห่วงเรื่องร้อนเลย
ความรู้สึกทำอะไรแล้วต้องรอ มีน้อยมาก (ไม่นับการ build)
seamless จับไฟล์ลากโยนไปมาต่อเนื่องกว่า Windows
งานสอนงานประชุมไหลลื่นกว่าเก่ามาก ไม่ได้รู้สึกว่าประชุมไปจะต้องชาร์จแบตไป
ลำโพงที่เกินตัวคำว่า Laptop ไปมาก เรื่องนี้อาจจะไม่สามารถพูดในเชิงวิทยาศาสตร์หรือเป็นตัวเลขได้ แต่เอาเป็นว่ามันดีกว่า Laptop หลายตัวในท้องตลาด (พูดเฉพาะ Category Laptop)

Cons

เป็นจุดเล็กน้อยที่ผมคิดว่าให้มาดีกว่านี้น่าจะดีเลยละ
กล้องน่าจะให้มาดีกว่านี้หน่อย ในใจผมหวังจะให้รุ่นถัดไปเป็น 2K หรือมาพร้อม Center Stage ไปเลย จุดนี้จุดเดียวจริง ๆ
ไฟคีย์บอร์ดที่ต้องปรับผ่าน Software อย่างเดียว

Top comments (0)