Back-end (หรือหลังบ้าน)
Backend มักจะประกอบด้วยสามส่วน: เซิร์ฟเวอร์ (server) แอปพลิเคชัน (application) และฐานข้อมูล (database) หากคุณจองเที่ยวบินหรือซื้อตั๋วคอนเสิร์ตคุณมักจะเปิดเว็บไซต์และโต้ตอบกับส่วนหน้าบ้าน (Front-end) เมื่อคุณป้อนข้อมูลนั้นแล้วแอปพลิเคชันจะจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลที่สร้างขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ คิดง่ายๆว่าฐานข้อมูลเป็นสเปรดชีต Excel ขนาดใหญ่บนคอมพิวเตอร์ แต่คอมพิวเตอร์ในที่นี้คือ (เซิร์ฟเวอร์) ซึ่งข้อมูลของคุณอาจจะเก็บไว้ที่ไหนสักแห่งในบนโลกขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ
ข้อมูลทั้งหมดนั้นยังคงอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ดังนั้นเมื่อคุณกลับเข้าสู่แอปพลิเคชันเพื่อพิมพ์ตั๋วของคุณข้อมูลทั้งหมดยังคงอยู่ในบัญชีของคุณ
เราจะเรียกบุคคลที่สร้างเทคโนโลยีนี้ทั้งหมดเพื่อให้ระบบทำงานร่วมกันได้ ว่า "backend developer" ซึ่งคนเหล่านี้ต้องมีทักษะการเขียนภาษาโปรแกรมมิ่งได้แก่ PHP, Ruby, Python, และอื่น ๆ พวกเขามักจะใช้ framework เพื่อเป็นตัวช่วยในทำงาน อย่างที่ดังๆก็มี Ruby on Rails, Cake PHP และ Code Igniter สิ่งพวกนี้ทำให้พวกเขาทำงานเร็วขึ้นและไวขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญด้านเว็บหลายคนที่เพิ่งเข้ามาในวงการอาจเคยได้ยินคนจำนวนมากพูดถึง WordPress ซึ่ง WordPress เป็นตัวอย่างที่ดีของส่วนหน้าบ้านและส่วนหลังบ้านที่ทำงานร่วมกันได้ เพราะ WordPress เป็นเฟรมเวิร์กที่มาจากภาษา PHP ที่คุณต้องติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณด้วยฐานข้อมูล จากนั้นนักออกแบบจะปรับแต่งรูปลักษณ์และฟังก์ชันการทำงานของไซต์ WordPress โดยใช้ CSS, jQuery และ JavaScript
Top comments (0)