DEV Community

Ta for tamemo

Posted on • Originally published at centrilliontech.co.th

ทำยังไง? อยากให้ JavaScript เรียกฟังก์ชันในภาษา PHP เขียนโค้ดยังไงนะ

หนึ่งในคำถามที่เว็บโปรแกรมเมอร์มือใหม่ถามกันเยอะมากจนน่าจัดเก็บไว้เป็น FAQ เลยก็คือ

"จะทำยังไงให้เราเรียกใช้ฟังก์ชันภาษา PHP จากสคริป JavaScript ได้"

เช่นแบบนี้...

<button onclick="<?php functionInPhp1(); ?>">
    คลิกฉันสิ!
</button>
Enter fullscreen mode Exit fullscreen mode

หรือแบบนี้...

function functionInJs(){
    let x = <?php functionInPhp2(); ?>
}
Enter fullscreen mode Exit fullscreen mode

คำตอบคือ ด้วยการทำงานของเว็บที่ทำงานบนโปรโตคอล http นั้น...มันทำไม่ได้!! (แต่มีวิธีแก้ ถ้าอยากทำจริงๆ อ่านต่อไป!)

จริงๆ แล้วไม่จำกัดว่าต้องเป็นภาษา PHP เท่านั้นนะ เคสนี้เป็นกับทุกภาษาฝั่งเซิร์ฟเวอร์เลย

เพื่อจะตอบว่าทำไมมันทำไม่ได้ เราจะต้องอธิบายการทำงานของ http กันซะก่อน

http และ Stateless

http เป็นโปรโตคอลมาตราฐานสำหรับการเขียนเว็บ ซึ่งการทำงานของมันสรุปง่ายๆ ได้ดังนี้

โปรโตคอล (Protocol) = กฎที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้คอมพิวเตอร์ในเน็ตเวิร์คสามารถคุยกันด้วยภาษาเดียวกัน ไม่งั้นมันจะคุยกันไม่รู้เรื่อง

  • Client ส่งคำขอหรือ request ไปหา Server
  • เมื่อ Server ได้รับ request แล้วก็จะรันสคริปที่เตรียมไว้ เพื่อหาว่าจะตอบอะไรกลับไปให้ Client, ในสเต็ปนี้ อาจจะมีการเชื่อมต่อเพื่อขอข้อมูลจาก database ด้วย
  • หลังจาก Server คิดเสร็จ ก็จะส่งคำตอบ (อยู่ในรูปแบบของ String) กลับไปให้ Client [มาถึงตรงนี้ถือว่า Server ทำงานเสร็จแล้ว!]
  • Client รับข้อมูลไป (ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบ html) ก็เอาไปแสดงผล แต่ถ้ามีการแนบสคริปมาด้วย ก็จะจัดการรันสคริปตัวนั้นซะในสเต็ปนี้
  • จบจ้า!

สำหรับฝั่ง Client นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเพราะมีแค่ภาษาเดียวเท่านั้นที่ครอบครองอยู่ นั่นคือ JavaScript แต่ฝั่ง Server นี่มีหลายภาษามากๆ เช่น PHP, Node.js. Go, .NET

แต่ไม่ว่าฝั่งเซิร์ฟเวอร์จะเขียนด้วยภาษาอะไร หน้าที่ของมันคือส่ง HTML, CSS, JS กลับมาให้ Client เพื่อโปรเซสต่อ

จะเห็นว่า http เป็นโปรโตคอลง่ายๆ ถามมา-ตอบกลับ แล้วก็จบงาน

ซึ่งเราเรียกการทำงานแบบนี้ว่า "Stateless" คือทำงานเป็นรอบ พอเรียกใช้งานและทำงานนั้นเสร็จแล้ว ก็จบการทำงาน (เว็บส่วนใหญ่ทำงานแบบนี้)

ตรงข้ามกับ "Stateful" ที่ตัวโปรแกรมรันค้างอยู่ตลอดเวลา (ให้นึกถึงแอพพลิเคชันมือถือหรือโปรแกรมที่รันใน Desktop)

Server ทำงานก่อน Client เสมอ!

เราอธิบายให้ฟังแล้วว่า http นั้นเริ่มทำงานที่ Server รันเพื่อโปรเซสข้อมูลที่จะส่งกลับมาให้ Client ก่อน ... แล้วพอ Client ได้รับข้อมูล (ซึ่งอาจจะมี JavaScript แนบติดมาให้ด้วย) ก็จะเอาสคริปตัวนั้นมารันต่อ

แสดงว่าในจังหวะที่ Client เริ่มทำงานนั้น ... โค้ดฝั่ง Server ทำงานเสร็จไปแล้ว !

นี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเราไม่สามารถทำให้ JavaScript เรียกให้ PHP ทำงานได้

เช่น

<?php
    function registerMeeting(){
        //ต้องการบันทึกว่าเข้าร่วมประชุมแล้ว
    }

    function getOnlines(){
        //ต้องการดึงรายชื่อคนที่กำลังออนไลน์อยู่ในขณะนี้
    }
?>

<button onclick="<?php registerMeeting(); ?>">
    ลงชื่อเข้าประชุม
</button>

<script>
    function getWhoOnlineNow(){
        let onlines = <?php getOnlines(); ?>
    }
</script>
Enter fullscreen mode Exit fullscreen mode

ในโค้ดตัวอย่างนี้เรามีฟังก์ชันในภาษา PHP อยู่ 2 ตัว คือ registerMeeting() และ getOnlines()

จากนั้นเราไปเขียนโค้ด JavaScript เพื่อเรียกใช้งานฟังก์ชัน PHP ทั้งสองตัวนี้ต่อ

แต่ปัญหาก็คือ PHP เป็น Server-Side-Script มันทำงานก่อนเสมอ (ไม่ต้องรอให้ JavaScript เรียกหรอก ฉันทำงานเองตอนนี้เลย!)

แต่ด้วยโลจิคแล้ว เราต้องการให้ฟังก์ชันพวกนี้ทำงานเมื่อเรามี event เท่านั้น (เชื่อ ปุ่มโดน onclick หรือฟังก์ชัน JavaScript ทำงาน)

ดังนั้นโค้ดนี้เลยผิด!

Asynchronous คือทางแก้

หากต้องการให้ JavaScript เรียกให้ PHP ทำงานได้ มีอยู่วิธีเดียวนั้นคือใช้เทคนิคการเขียนโปรแกรมแบบ Asynchronous

หรือถ้าจะเรียกด้วยชื่อแบบดังเดิมคือเทคนิคที่เรียกว่า "Ajax" (Asynchronous JavaScript and XML) ... แต่ปัจจุบันไม่ค่อยเรียกชื่อนี้กันแล้วนะ และเราก็ไม่ได้ใช้แค่ XML เป็นตัวกลางส่งข้อมูลกันอีกตัวไป มีการใช้ JSON เพิ่มเข้ามาด้วย

ในบทความนี้จะไม่สอน Ajax แบบละเอียดนะ ถ้าอยากรู้ตามไปอ่านได้ที่ Ajax คืออะไร แล้วมันใช้ยังไง?

สำหรับ PHP ...

ให้แยกโค้ดส่วนที่ต้องการให้ JavaScript เรียกใช้งานได้ออกมาอยู่อีกไฟล์หนึ่ง เช่นกรณีนี้ตั้งชื่อไฟล์ว่า async-handler.php

FILE: async-handler.php

<?php
function registerMeeting(){
    //ต้องการบันทึกว่าเข้าร่วมประชุมแล้ว
}

function getOnlines(){
    //ต้องการดึงรายชื่อคนที่กำลังออนไลน์อยู่ในขณะนี้
}

switch($_GET['action']){
    case 'register-meeting': 
        registerMeeting(); 
        break;
    case 'get-online-user': 
        getOnlines(); 
        break;
}
Enter fullscreen mode Exit fullscreen mode

และเนื่องจากเรามี action ที่ต้องการให้ทำงานมากกว่า 1 ตัว ก็เลยใช้ query-string ชื่อว่า action เป็นตัวแยกว่า request ครั้งนี้ต้องการให้ฟังก์ชันไหนทำงาน (ตรงนี้ตั้งชื่อว่าอะไรก็ได้นะ แล้วแต่เลย)

<button onclick="registerMeeting()">
    ลงชื่อเข้าประชุม
</button>

<script>
    function registerMeeting(){
        fetch('/async-handler.php?action=register-meeting')
    }

    function getWhoOnlineNow(){
        fetch('/async-handler.php?action=get-online-user')
        .then(onlines => {
            ...
        })
    }
</script>
Enter fullscreen mode Exit fullscreen mode

จากนั้น ในฝั่ง JavaScript ก็ใช้การ request กลับไปยังไฟล์ PHP async-handler.php ที่เตรียมไว้อีกรอบ จะใช้คำสั่ง fetch() หรือไลบรารี่ Axios หรือถ้าเก่าหน่อยก็ใช้ $.ajax() ของ jQuery ก็ตามสะดวกเลย

สรุป

การจะให้ JavaScript เรียกคำสั่ง PHP ตรงๆ นั้นทำไม่ได้ เพราะกว่า JavaScript จะเริ่มทำงาน PHP ก็ทำงานจนเสร็จไปก่อนแล้ว

แต่มีวิธีการแก้ทางคือสร้าง request ขึ้นมาอีกครั้งเพื่อเรียกไปหา Server ให้ปลุก PHP ขึ้นมาทำงานอีกรอบหนึ่ง

คือต้อง request 2 ครั้ง

  • ครั้งแรก - ให้ Server ส่ง HTML, CSS, JS มาให้ก่อน
  • ครั้งที่สอง - JavaScript สร้าง request อีกครั้ง เรียกไปยังไฟล์ PHP ที่เตรียมเป็น asynchronous handler เอาไว้

Latest comments (0)